top of page

"Another Side of Darkness" - Visits of friendship

Updated: Apr 30, 2020

23 November 2019

Before the last day of "Another Side of Darkness"

คืนนี้อาทิตย์ที่ 24 พ.ย. เป็นคืนสุดท้ายของ Another Side of Darkness Curated by Slure Project นะครับ ยังขอไม่พูดอะไรมาก เหมือนกับที่อั้นมาหลายปี

---

ประตูเปิด 18.30 น. เช่นเดิม แต่ Palam Palam เปิดตั้งแต่ 15.00 น. นะครับ

Special Film Screening Program ที่ Slure เริ่มเวลา 20.00 น. นะครับ และสิ้นสุดประมาณ 21.00 น.

ผมวาง Program สลับกับเมื่อวาน ไล่ตามความรู้สึกที่เหมาะสม คือ เริ่มด้วย 5 - 9 ของพี่ปอม Rasiguet Sookkarn และ ต่อด้วย Endlessly Sivaroj ของพี่กานต์ Sivaroj Karn Kongsakul นะครับ

ภาพยนตร์สั้นทั้ง 2 เรื่องนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความสำคัญกับความทรงจำในชีวิตผม และ ใครอีกหลาย ๆ คนมาก มันถูกสร้างขึ้นในปี 2014 - 2015 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พวกเราหลาย ๆ คน เพิ่งผ่านการทำงาน และ ใช้ชีวิตมาร่วมกันระยะหนึ่ง... ผมเดินทางไปต่างประเทศอีกครั้ง และก่อนไปผมได้เคยคิดว่า ผมคงไม่สามารถเดินทางหวนกลับมาหาสิ่งเหล่านี้ได้อีก และ ที่ผมเคยพูดไว้ในงาน "SailomSangdaed" วันที่ 24 ส.ค. ปี 2013 ที่จัดร่วมกับ @Rain Pongprasit และ Tossapol Boonsinsukh และศิลปินอีกหลาย ๆ ท่าน หลังจากนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย คนมากมายได้หล่นหายตายจากไปจากชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา และ เราต่างเรียนรู้ที่จะยอมรับมัน และดูแลสิ่งเหล่านี้อย่างอ่อนโยนที่สุดเท่าที่เราพอจะทำได้ "ความเป็นจริง" และ "ความฝัน" น่าจะไม่สามารถเดินทางมาบรรจบกันได้ แต่เราก็ต้องเดินทางออกไปจัดการกับความเป็นจริงให้ได้ เพื่อที่จะหล่อเลี้ยงความฝันต่อไป ขอบคุณพี่เจ้ย อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ผู้สนับสนุนการตัดสินใจในครั้งนั้น

---

หลัง 21.00 น. เราจะมี Mini Public Conference ของ Another Side of Darkness ซึ่งจะมี "พี่แซม" ศิลปินคนสำคัญ ที่สร้างปรากฏการณ์ในครั้งนี้ ร่วมกัน ใน Atmospheric Illumination Experience ร่วมพูดคุย และ คุณวินย์ โรจนเสถียร Project Architect ของ Slure Project ไปพร้อม ๆ กับผู้ชม ทีมงาน และ Volunteer ในงานนี้นะครับ

เนื่องจากมีคนเป็นจำนวนมาก และ เราเปิดเป็น Public สื่อมวลชน หรือ หน่วยงานไหนต้องการจะพบปะกับศิลปิน หรือมี Interview ต่างหาก หรือ ผู้จัดงาน ติดต่อสอบถามได้ที่ 092-6656436 หรือ Email: md@projectionistasia.com

ขอบคุณ TimeOut Bangkok ซึ่งเป็น Partner และ ผู้จัด Awakening Bangkok Top Koaysomboon

ขอบคุณอีกครั้ง พี่เค Kaenipa Phanakorn และ พี่แซม ที่ให้โอกาสผม และ ทีมงานได้ร่วมงานกัน และ เป็นกำลังใจให้พวกเรามาตลอด

ขอบคุณ Energizer สำหรับ การสนับสนุน และ การเชื่อในศักยภาพทางความคิดของพวกเรา Slure Project

ขอบคุณ Maxzymum Max Rachaya Wattanasirichaigoon Namtarnn Patcha และ ส้มโอ สุดยอดทีมงานที่เป็นเสมือนเส้นเลือดหลักของโปรเจคนี้ Without you guys we couldn't make it และ Volunteer ทุกคนจาก มศว. และ มิ๊งค์ ป่าน และ เพื่อน ๆ ของน้ำตาลที่มาช่วยทุกคน เพื่อน ๆ เชล ที่ลุยกันมาจนถึงวันสุดท้าย อดหลับอดนอน

ขอบคุณคุณพ่อ Ink Waruntorn Paonil สำหรับการสนับสนุน และ คำแนะนำทุกอย่างครับ

ขอบคุณ Pithai Smithsuth ที่รับฟัง และ ยินดีจะร่วมงานกัน และ VS Service ที่เคยช่วยเหลือ และ ร่วมงานกับ Projectionist ASIA มาก่อนในปี 2017

ขอบคุณ Yoko Sakamoto ที่คอยเป็นกำลังใจ และ สนับสนุน Slure Project อย่างจริงใจ ตั้งแต่ต้นเรื่อยมา และคำแนะนำด้านภาษาญี่ปุ่น

ขอบคุณ Professor Jay Rajasekara Jay Osama อาจารย์ด้าน System Design และ Digital Business & Strategy เจ้าของระบบใต้มหาสมุทรคนแรกของโลก ("repeater optimization" computer algorithm for the construction of the world's first Undersea Fiber Optic Cable TAT-8 between the US and Europe) ที่เชื่อในสิ่งที่ผมคิดมาตลอดว่ามันเกิดขึ้นได้จริงถ้าเรามองเห็นมัน

ขอบคุณ Professor Kimio Kase บิดาแห่ง Corporate Level Strategy ที่โยนกุญแจดอกสำคัญในชีวิตให้ผม คนที่เปิดสมองอันมืดทึบให้เปิดโล่งและอ่านสถานการณ์ของโลกให้ขาด

ขอบคุณ Dhanadhat Marwin Trairatwongse ที่เคยให้โอกาสในการทำงานร่วมกัน ถึงแม้ว่ารูปแบบในโลกความเป็นจริงอาจจะไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม

ขอบคุณพี่ เอ๋ Pavinee Ae Samakkabutr ที่ให้กำลังใจผม และ พวกเรามาตลอด

ขอบคุณ Ooi Wongsathianchai ที่ช่วยเหลือพวกเราเสมอมา

ขอบคุณ Win Rojanastien สำหรับพลังงานมหาศาล ความจริงใจ และ ความเข้าใจที่มีให้เสมอมา

ขอบคุณ Veeraon Viranuvat Oat และ Wanlop Pichpongsa โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับความรัก และ ที่เป็นพี่ที่น่ารักเสมอ ตลอดมา และพี่สาวผมทั้ง 4 คน และ น้องชาย และ น้องสาวผม

ขอบคุณ "ป๊า" และ "แม่" Pravit Viranuvat และ Kanit Viranuvat ที่ให้ชีวิต สอนวิธีคิด ความอ่อนน้อมถ่อมตน และ การให้ และ การช่วยเหลือผู้อื่น และ โอกาสในการมีชีวิตที่ผมเชื่อ และทำสิ่งที่ผมรัก ถึงแม้ท่านทั้ง 2 จะรู้ว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่ผมฝันไว้ ในประเทศนี้ แต่ก็ยังปล่อยให้ผมได้ทำ

ขอบคุณ Nam Natcha ที่เป็นแม่ของลูกที่ดีที่สุดที่ผมจะมีได้ และ ปล่อยให้ผมไม่หลงลืมสิ่งที่เติบโตมา ขอบคุณลูก "ภูคิน และ ภูคา" ที่เป็นกำลังใจ และเหตุผลให้ยังสู้ต่อไป

*** ขอบคุณ Projectionist ASIA สำหรับการต่อสู้อันยาวนาน และ ทุก ๆ คนที่เคยอยู่ตรงนั้น ขอบคุณอาจารย์ทุกคนในชีวิตของผม Ingo Petzke ที่ค้นพบศักยภาพในการมองเห็นของผมตั้งแต่ปี 2004 และ Ridley Williams อาจารย์ Image & Photography ที่ได้จากพวกเราไปแล้ว ขอบคุณ Hou Hsiao Hsien ขอบคุณ Jiro Endo สำหรับมิตรภาพที่ดีเสมอมา ขอบคุณ Thongdee Sukhum ที่เชื่อใน Projectionist ASIA เสมอมา ขอบคุณพี่คงเดช Kongdej Jaturanrasmee พี่ Lee Chatametikool และ อีกหลาย ๆ คนที่ยังเชื่อว่าผมมองเห็นมันอยู่..


เป็นภาพที่ผมชอบที่สุด คือตอนที่ผู้คนมานั่งเขียน Questionaire เหมือนทำข้อสอบ ผมรู้สึกว่าผู้คนหลงลืมการ Reply ด้วยการเขียน ด้วยปากกาประมาณหนึ่ง เพราะว่ามันลบไม่ได้ - แต่ชอบที่สุดคือ concentration ที่ผู้คนมอบให้กับสิ่งที่ทีมงานทุกคนได้ทำ และ ทุ่มเทลงไป มันคืนกลับมาผ่านถ้อยคำ และ ความคิดของทุก ๆ คน

ขอบคุณ เพื่อน ๆ และ น้อง ๆ ที่รัก

บอย Boy Wootichai Wongnoppharatlert เพื่อนรักตั้งแต่อายุ 18 ตอนเข้า ธรรมศาสตร์ Co-Founder ของ The Soul and After That ในช่วงปี 2001 - 2002 ซึ่งถือเป็น Literature & Poetic Space แห่งแรกในธรรมศาสตร์ช่วงเวลานั้น เรามีโอกาสได้ต้อนรับศิลปินหลายท่าน ทั้งวง "พรู" ตอนเปิดตัวอัลบั้มแรก ที่เดินทางมาจาก บร.3 ทันทีที่เราเชิญ และ พี่สุกี้เอ่ยปากออกมาเลยว่า "ถ้าน้องกล้าชวนพี่ก็กล้าไป" จำได้ว่าตอนนั้น พี่น้อยชอบที่นั่นมาก แกบอกว่าไม่คิดว่า "มหาวิทยาลัยในเมืองไทย" จะมีอะไรแบบนั้น.. ยุคเดียวกับที่ Moderndog ออก Love Me Love My Life - พี่จุ้ย "ศุ บุญเลี้ยง" ที่เข้ามาเขียนบทความอะไรทิ้งไว้ให้ มีกิจกรรม และ ช่วงเวลาดี ๆ มากมายที่นั่นในเวลานั้น ทั้งงานดนตรี งานเสวนา และ บทสนทนาระหว่างวันมากมายที่สร้างบุคคลมากมายที่เติบโตมาในช่วง 20 ปีที่ผ่านมานี้

Lapas Mekraksavanich และ โอ๊ต แห่ง The Somchai ตองที่เคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ เหมือนออกรบด้วยกันเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่ DSIFF หลังจากกลับมาจาก Italy เป็น Head of Design Department และ เป็นคนที่เต็มไปด้วย Passion และ Perception ที่แข็งแกร่งเสมอมา

Ong Tongpong Chantarangkul พี่อ๊อง เพื่อนรัก และ พี่ชายที่รู้จักกันมาตั้งแต่ 2008 ตอนที่ทำ "ท้องฟ้าจำลอง" หรือ Stratosphere ตอนที่เข้ารอบ Pro du sud Nante Film Festivalม Festival des 3 Continents (Producer from the South) ผ่านการสนับสนุนของ World Film Festival of Bangkok ด้วยกัน พร้อมกับ "ปาดังเบซาร์" หรือ I Carried You Home จนสุดท้ายเรากลายไปเป็น Co-Producer ของหนังพี่อ๊อง และ หนังตัวเองยังไม่ได้ทำจนถึงทุกวันนี้



ขอบคุณพี่ "แซม" ซึ่งให้เกียรติมาร่วมงานกับทาง Slure Project ในฐานะ Lighting Director ของ Another side of Darkness ครับ รู้สึกโชคดี ที่รู้จักพี่แซมมาร่วม 10 ปี เพิ่งได้มีโอกาสมาร่วมงานกันในงานเล็ก ๆ ที่ใช้เวลาเกือบ 100% กับเรื่องความรู้สึกที่แชร์ร่วมกัน มากกว่าเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สาระของงานภาพยนตร์

ขอบคุณพี่กานต์ ที่ให้เกียรตินำภาพ 44 ภาพจากการเดินทางสู่ Paris ครั้งแรกในระหว่าง Cannes in Residence ของ Cine Foundation สำหรับการเขียนบทภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องที่ 2 "อรุณกาล" พี่กานต์เป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ที่รัก และ เติบโตมาด้วยกัน


ขอบคุณพี่กานต์ครับ



ขอบคุณพี่นนท์ พี่กานต์ ครับ


Thank you everyone for coming ~


ขอบคุณโรงเรียน สตรีศรีสุริโยทัย และ อาจารย์ณัฐ นศ. ปี 6 ด้านดนตรีไทย ผู้ฝึกสอน อาจารย์ ท่าน ผอ. สำหรับการเข้าร่วมในครั้งนี้ครับ


Thank you TimeOut & Nylon for this opportunity krub ! ขอบคุณคุณท๊อป especially ที่รับฟังพวกเราตั้งแต่ต้น ถึงแม้เราจะไม่ได้มีอะไรหวือหวา เป็นอะไรเรียบ ๆ ง่าย ๆ ในแบบที่พวกเราเชื่อ หวังว่างานนี้จะเป็น "พลัง" เล็ก ๆ ให้คนอีกมากมายที่กำลังสู้อยู่สู้ต่อไปครับ :)


"โลกไม่ได้โหดร้าย.. เราต่างหากที่อ่อนแอเกินไป"

- a place called earth by Niam



You are there no matter what.. no one know how much it hurts

118 views1 comment

Recent Posts

See All
bottom of page